สนาม: สายด่วนปักกิ่ง 010
บทนำ: ตำรวจห้วยขวางรวบไอ้หื่นออกจากคุกได้ไม่กี่เดือนก่อคดีเขย่าขวัญสตรีเพศ บุกหอพักพบห้องหนึ่งไม่ได้ล็อกประตู เข้าไปลักทรัพย์ขณะสาวเจ้าของห้องอาบน้ำ รอจนเหยื่อออกมา ขู่บังคับข่มขืนสำเร็จความใคร่ สารภาพเป็นคนมีอารมณ์ทางเพศสูง เคยต้องคดีข่มขืนมาแล้วที่ปทุมธานี เผยเลือกสถานที่ก่อเหตุที่ไม่มีกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 23 กันยายนนี้ ที่ สนห้วยขวาง พตอมนต์ชัย ศรีประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1, พตอนครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบกน1, พตอกัมพล รัตนประทีป ผกกสนห้วยขวาง แถลงข่าวการจับกุมตัวนายสุรินทร์ หรือบังฮิม ยันตะดิลก อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2190/2561 ลงวันที่ 22 กันยายน 2561 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย ข่มขืนใจผู้อื่น และลักทรัพย์ในเคหสถาน พตอนครินทร์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเวลา 1700 น วันที่ 15 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มี นสพร (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สนห้วยขวาง ว่าถูกคนร้ายบุกรุกเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราและลักทรัพย์ โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไปคือโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และพระเครื่องจำนวนหลายองค์ เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ สนห้วยขวาง หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สนห้วยขวางได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบสภาพแวดล้อมบริเวณใกล้เคียง ทราบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 คน ใช้รถจักรยานยนต์ขับขี่มายังหอพักที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้คือนายสุรินทร์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่ออนุมัติศาลออกหมายจับ กระทั่งเวลา 1000 น วันที่ 22 กันยายน พตตภาคิน ไกรจิตติชาญ สวสสสนห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้จับกุมนายสุรินทร์ไว้ได้ขณะหลบหนีไปอาศัยอยู่ในย่านใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม ตรวจค้นภายในตัวพบแหวนหลวงพ่อชำนาญ สวมใส่อยู่ที่นิ้วก้อย ซึ่งเป็นของกลางที่ขโมยมาจากผู้เสียหาย จากนั้นได้ควบคุมตัวไปตรวจยึดพระเครื่องที่แผงเช่าพระไม่มีชื่อ ย่านสะพานใหม่ ได้ของกลางมาทั้งหมด 5 องค์ จากการสอบสวน นายสุรินทร์ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยตนเป็นคนมีความต้องการทางเพศสูง และในวันเกิดเหตุ ขณะมาหาเพื่อนซึ่งเป็นสาวประเภทสอง แต่เพื่อนไม่อยู่ และเห็นว่าหอพักดังกล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด จึงเดินตระเวนดูห้องที่ไม่ได้ล็อกตั้งแต่ชั้น 1 จนถึงชั้น 4 กระทั่งพบว่าห้องผู้เสียหายไม่ได้ล็อกประตู จึงเปิดประตูเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เมื่อผู้เสียหายออกมาจึงใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมด้วยของกลาง รอง ผบกน1 เผยต่อไปว่า จากการตรวจสอบประวัตินายสุรินทร์ เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภธัญบุรี จปทุมธานี ดำเนินคดีข้อหาข่มขืนผู้อื่นเมื่อปี 2553 และเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนโคกคราม จับกุมเมื่อปี 2554 ความผิด พรบอาวุธปืนและวัตถุระเบิด เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 แล้วมาก่อเหตุซ้ำ อีกคดี ที่ จนครปฐม พตอสีหเดช สระกอบแก้ว ผกกสภนครชัยศรี พร้อมกำลัง ได้ควบคุมตัวนายสุรพล พินทอง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกเข้าไปในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเขต ตวัดละมุด อนครชัยศรี จนครปฐม ลากเด็กหญิงนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อายุ 11 ปี เพื่อจะข่มขืน แต่เด็กต่อสู้ด้วยการชกหน้า และร้องขอความช่วยเหลือจนรอดพ้นมาได้ ส่วนนายสุรพลได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนี ก่อนที่ตำรวจจะติดตามจับกุมไว้ได้ นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พตอสีหเดชเปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสุรพลให้การยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหากระทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยที่เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากการตรวจสอบประวัตินายสุรพล พบเคยก่อเหตุฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเมื่อปี พศ2556 โดยฆ่าภรรยาแล้วนำศพไปยัดท่อ ศาลตัดสินจำคุก 7 ปีครึ่ง จำคุกมา 4 ปีกว่า นายสุรพลต่อสู้ในชั้นศาลว่าป่วยมีอาการทางจิต และเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกเมื่อปีที่แล้ว ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายสุรพลไปตรวจดีเอ็นเอที่ พฐ7 เพื่อตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอของคนร้ายที่เคยก่อเหตุข่มขืนคนแก่ก่อนหน้านี้ ทั้งในจังหวัดนครปฐมและจังหวัดอื่น โดยยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้...
ลิงค์ที่เป็นมิตรเวลาปัจจุบัน:2021-04-14